TH เซ็นสัญญาร่วมโครงการ Web3ESPA เพื่อพัฒนา Web3 Decentralized Storage ในประเทศไทย
07/07/2022
Tong Hua Labs (ตงฮั้วแล็บส์) ฝ่ายพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม ภายใต้บริษัทตงฮั้ว โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน)ได้เซ็นต์สัญญาเข้าร่วมโครงการ Web3ESPA (Web3 Enteprise Storage Provider Accelerator) ซึ่งโครงการนี้จัดตั้งโดยบริษัท Protocol Labs (ผู้ก่อตั้งโปรเจค IPFS และ FileCoin), PikNik (ผู้นําด้าน Decentralized Storage ของสหรัฐอเมริกา), Seagate (บริษัทชั้นนำด้าน Data Storage) และ AMD (บริษัทชั้นนำด้าน Semiconductor) เพื่อศึกษาและจัดทำแผนพัฒนาธุรกิจด้าน Web3 Decentralized Storage โดยใช้เทคโนโลยี IPFS และ Filecoin
โดยโครงการ Web3ESPA ได้เลือก บริษัท ตงฮั้ว โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เป็น 1 ใน 15 บริษัทจากทั่วโลกและเป็นบริษัทเดียวในประเทศไทย ที่ผ่านเกณฑ์การเข้าร่วมโครงการในครั้งนี้ ซึ่งจะมีประชุมทางธุรกิจรอบแรกที่มลรัฐลาส เวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ในปลายเดือนกรกฎาคมนี้ เพื่อขยายโครงสร้างพื้นฐานการจัดเก็บข้อมูลแบบกระจายอำนาจในเอเชีย
บริษัท ตงฮั้ว โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เติบโตจากธุรกิจสื่อและสิ่งพิมพ์ ซึ่งจัดทำสื่อและเนื้อหาข่าวมายาวนานกว่า 60 ปี ทั้งนี้บริษัทฯ มองว่าสื่อมีบทบาทในการจัดเก็บข้อมูล ข่าวสารซึ่งถือเป็นองค์ความรู้ที่สำคัญของคนทุกระดับชั้น และควรถูกจัดเก็บอย่างมีประสิทธิภาพและสมบูรณ์มากที่สุด เนื่องจากโลกของอินเทอร์เน็ตและโลกความจริงได้เชื่อมต่อกันมากขึ้น ทำให้ข้อมูลบนโลกอินเทอร์เน็ตมีความสำคัญอย่างเลี่ยงไม่ได้
บริษัทได้มองเห็นถึงปัญหาโครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูลในยุคปัจจุบัน เนื่องจากโลกอินเทอร์เน็ตที่เรารู้จักถูกจำกัดโดย Content Delivery Networks และโปรโตคอล HTTP และการจัดเก็บข้อมูลมีบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีคอยควบคุมจนเกิดปัญหาเช่น “ข้อมูลไม่ถูกแบ่งปันไปยังผู้ให้บริการรายอื่น (Data Silos)”, “การผูกขาดซึ่งนำไปสู่การคิดค่าบริการที่ไม่เป็นธรรม (Monopolization)”, “การหาผลประโยชน์จากข้อมูลของผู้ใช้งาน (Unethical Monetization)”, “ปัญหาด้านการควบคุมและจัดการข้อมูลส่วนบุคคล (Data Privacy and Sovereignty)”, ”ปัญหาด้านความเสถียรของระบบ (Robustness)” และ “ปัญหาด้านความไว้วางใจระหว่างผู้ใช้และผู้ให้บริการ (Trust Issues)”
ปัญหาข้างต้นเป็นสาเหตุบางส่วนที่ทำให้ Decentralized Storage มีความสำคัญในการแก้ไขปัญหาการจัดเก็บข้อมูลแบบดั้งเดิม นอกจากนั้นระบบยังถูกออกแบบมาเพื่อช่วย “พิสูจน์ความถูกต้องของข้อมูล”, “ป้องกันการทำซ้ำ แก้ไข เปลี่ยนแปลงข้อมูล” และ “ลดการจัดเก็บข้อมูลที่ซ้ำซ้อน” เป็นต้น ทั้งยังให้ผู้ใช้งานสามารถเป็นเจ้าของข้อมูลอย่างแท้จริง และสามารถกำหนดสิทธิ์การเข้าถึงให้แก่บุคคล หรือองค์กรใดก็ได้ตามความต้องการ
ทั้งนี้การเข้าร่วมโครงการดังกล่าว สอดคล้องกับเป้าหมายของบริษัทฯ ในการขยายธุรกิจเพื่อรองรับเมกะเทรนด์ในการก้าวเข้าสู่ Web3 และเทคโนโลยีที่กำลังจะเปลี่ยนแปลงไป รวมทั้งยังเชื่อมโยงกับโปรเจค Decentralized Infrastructure ที่บริษัทฯ กำลังพัฒนาอยู่ในปัจจุบัน พร้อมเข้าสู่ธุรกิจและขึ้นเป็นผู้นำด้าน Web3 Decentralized Storage ในประเทศไทย
การเข้าร่วมโครงการในครั้งนี้ จะเป็นการเปิดโอกาสให้บริษัทฯ สามารถขยายธุรกิจทางด้านอื่น ๆ ในอนาคตได้อีกด้วย